term and condition
นโยบายด้านการบริหารจัดการความเป็นส่วนตัวและข้อมูลส่วนบุคคล
เนื่องจาก บริษัท ไทซันฟูดส์ จำกัด ให้ความสำคัญในเรื่องการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล จากการใช้บริการเว็บไซต์ทางการของบริษัทฯ (https://www.thaisunfoods.com/) และเพื่อให้ผู้ใช้บริการได้มั่นใจว่า ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่บริษัทได้รับนั้น จะถูกนำไปใช้ตรงตามความประสงค์ของท่าน และถูกต้องตามกฎหมาย บริษัทฯ จึงได้จัดทำนโยบายด้านการบริหารจัดการความเป็นส่วนตัว และข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ขึ้น เพื่อกำหนดหลักเกณฑ์การรวบรวม การจัดเก็บ การใช้ หรือการเผยแพร่ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการ ให้มีความมั่นคงปลอดภัย และน่าเชื่อถือ
บริษัทฯ จึงประกาศนโยบายส่วนบุคคลของบริษัทให้ท่านได้รับทราบ ดังต่อไปนี้
นิยาม (Define)
บริษัทฯ มายถึง บริษัท ไทซันฟูดส์ จำกัด
ข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม ได้แก่ ชื่อ – นามสกุล, อีเมล, ไอดีไลน์ และเบอร์โทรศัพท์
ผู้ใช้บริการ หมายถึง เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งเป็นผู้เข้าใช้บริการผ่านเว็บไซต์ทางการของ
บริษัทฯ (https://www.thaisunfoods.com) หรือใช้บริการอื่นใดทางอิเล็กทรอนิกส์ของบริษัทฯ
เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง บุคคลผู้เป็นเจ้าของข้อมูลนั้น ซึ่งเป็นผู้เข้าใช้บริการผ่านเว็บไซต์ทางการของ บริษัทฯ (https://www.thaisunfoods.com) หรือใช้บริการอื่นใดทางอิเล็กทรอนิกส์ของบริษัทฯ
ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทเก็บรวบรวม
บริษัทจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล ดังต่อไปนี้
ข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไป ได้แก่
– ชื่อ-นามสกุล, เบอร์โทรศัพท์, อีเมล, ไอดีไลน์
– ข้อมูลอุปกรณ์หรือเครื่องมือ อาทิ IP address, MAC address, Cookie ID
– ข้อมูลบันทึกต่าง ๆ ที่ใช้ติดตามตรวจสอบกิจกรรมต่าง ๆ ของบุคคล อาทิ Log file, ข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์
– ข้อมูลที่สามารถใช้ในการค้นหาข้อมูลส่วนบุคคลอื่นในอินเตอร์เน็ต
แหล่งที่มาของข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทอาจได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจาก 2 ช่องทาง ดังนี้
1. บริษัทได้รับข้อมูลส่วนบุคคลจากท่านโดยตรง โดยบริษัทจะเก็บรวมรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากขั้นตอนการให้บริการดังนี้
– จากข้อมูลการใช้เว็บไซต์ของบริษัทผ่าน browser’s cookies ของท่าน
– จากการที่ท่านติดต่อกับบริษัทตามช่องทางการสื่อสารต่าง ๆ ระหว่างบริษัทกับท่าน
2. บริษัทได้รับข้อมูลส่วนบุคคลจากการรวบรวมข้อมูลจากที่มาหลาย ๆ แห่ง
บริษัทฯ มีการนำข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้มาจากพันธมิตรทางธุรกิจของบริษัทฯ ซึ่งบริษัทฯ กำหนดให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องต้องปฏิบัติตามนโยบาย และแนวปฏิบัติด้านการบริหารจัดการความเป็นส่วนตัวและข้อมูลส่วนบุคคลตามที่ประกาศไว้อย่างเคร่งครัด
วัตถุประสงค์ในการประมวลผลข้อมูล
บริษัทจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์ ดังต่อไปนี้
– เพื่อเสนอผลิตภัณฑ์หรือบริการใด ๆ ของบริษัท และ/หรือ พันธมิตรทางธุรกิจของบริษัท ทั้งที่เป็นบุคคลธรรมดาและนิติบุคคล
– เพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอใช้บริการของท่าน
– เพื่อการปฏิบัติตามสัญญาและการปฏิบัติตามเงื่อนไขการให้บริการของบริษัท
– เพื่อการปฏิบัติตามกฎหมายและกฎเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง
– เพื่อการติดต่อสื่อสารที่เกี่ยวข้องกับการบริการ การควบคุมคุณภาพของการให้บริการ หรือการดูแลลูกค้าให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
– เพื่อเป็นการจัดการเกี่ยวกับการบริการหลังการขาย เพื่อให้ท่านได้ประโยชน์สูงสุด
– เพื่อการจัดทำการบริการทางดิจิทัล
– เพื่อการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการตลาด และการวิจัยตลาด
การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
เมื่อได้รับข้อมูลส่วนบุคคลจากแหล่งที่มาของข้อมูลแล้ว บริษัทจะดำเนินการดังนี้กับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลอย่างจำกัด
บริษัทฯ มีการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการด้วยวิธีการตามกฎหมายและเป็นธรรม โดยบริษัทฯ จะจัดเก็บข้อมูลเท่าที่จำเป็นสำหรับการให้บริการทางอิเล็กทรอนิกส์ตามวัตถุประสงค์ในการดำเนินงานของบริษัทฯ และตามที่กฎหมายกำหนดเท่านั้น โดยจะขอความยินยอมจากผู้ใช้บริการผ่านหน้าเว็บไซต์ของบริษัทฯ หรือวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์อื่นใด ก่อนทำการเก็บรวบรวม เว้นแต่เป็นกรณีที่กฎหมายกำหนด และ/หรือในกรณีตามที่กำหนดไว้ในนโยบายฉบับนี้ โดยบริษัทฯ จะรักษาข้อมูลเหล่านั้นไว้เป็นความลับ
การใช้ข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทจะใช้ข้อมูลส่วนบุคคลในกรณีที่พิจารณาแล้วเห็นว่าเป็นประโยชน์ต่อการทำงาน การดำเนินธุรกิจของบริษัท เพื่อให้ท่านได้รับบริการที่ดี บริษัทจะใช้ข้อมูลส่วนบุคคลให้เป็นไปตามกฎหมายและกฎเกณฑ์ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง หรือเพื่อปรับปรุงบริการให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อพัฒนามาตรฐานความมั่นคงปลอดภัยสารสนเทศในการบริหารจัดการความเสี่ยง ตรวจจับ ป้องกันกิจกรรมที่มีแนวโน้มในการละเมิดกฎหมาย ระเบียบการใช้งานที่เกี่ยวข้อง หรือข้อตกลง เงื่อนไขการใช้งานเว็บไซต์ของบริษัท รวมถึงเพื่อติดต่อท่านผ่านทางโทรศัพท์ ข้อความ (SMS) อีเมล หรือไปรษณีย์ หรือผ่านช่องทางใด ๆ เพื่อสอบถาม หรือแจ้งให้ท่านทราบ หรือตรวจสอบและยืนยันข้อมูล หรือสำรวจความคิดเห็น หรือแจ้งข้อมูลข่าวสารอื่นใดที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ และการให้บริการของบริษัทตามที่จำเป็น
การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทจะเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่บุคคลที่สาม เพื่อประโยชน์ในการเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการในด้านต่าง ๆ แก่ท่านมากยิ่งขึ้น หรืออำนวยความสะดวกอื่นใดแก่ท่านได้อย่างถูกต้อง ต่อเนื่องเพื่อให้ท่านสามารถทำธุรกรรมที่ท่านประสงค์ได้สำเร็จลุล่วง โดยการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่บุคคลดังกล่าวนั้น บริษัทจะดำเนินการให้บุคคลเหล่านั้นเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้เป็นความลับ และ มิให้ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล นอกเหนือไปจากวัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลหรือเปิดเผยต่อบุคคลภายนอก เว้นแต่
– เป็นไปเพื่อประโยชน์ของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล และการขอความยินยอมไม่อาจกระทำได้ในเวลานั้น
– เป็นไปเพื่อประโยชน์กับชีวิต สุขภาพ หรือความปลอดภัยของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลและผู้ใช้บริการท่านอื่น
– เป็นไปเพื่อประโยชน์แก่การสอบสวนของพนักงานสอบสวน หรือการพิจารณาคดีของศาล
– เป็นการปฏิบัติตามกฎหมาย
ทั้งนี้ บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่บุคคลต่าง ๆ ตามที่ระบุด้านล่างนี้
– ผู้บริหาร พนักงาน ลูกจ้าง บุคลากร ของบริษัทที่การปฏิบัติงานเกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคล
– ผู้ถือหุ้นของบริษัท
– พันธมิตรของกลุ่มบริษัท
– ที่ปรึกษาวิชาชีพต่าง ๆ
ได้แก่ ที่ปรึกษาทางการเงิน ที่ปรึกษากฎหมาย ผู้สอบบัญชี ผู้ตรวจสอบภายใน ผู้ตรวจสอบภายนอก
– ผู้ให้บริการต่าง ๆ ที่ให้บริการแก่กลุ่มบริษัท
ได้แก่
– ผู้ให้บริการจัดการโครงสร้างพื้นฐานและเทคโนโลยีสารสนเทศ
– ผู้ให้บริการจัดเก็บข้อมูลรวมถึงผู้ให้บริการคลาวด์
– ผู้ให้บริการทางการตลาด ซึ่งรวมถึงผู้ให้บริการในการจัดทำข้อมูลและสถิติด้วย
– ผู้ให้บริการงานโฆษณา งานประชาสัมพันธ์ และการติดต่อสื่อสาร
– ผู้ให้บริการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับระบบและเครือข่ายชำระเงิน
– ผู้ให้บริการยืนยันตัวตนต่าง ๆ
– ผู้ให้บริการติดตามหนี้
– ผู้ให้บริการตรวจสภาพทรัพย์สิน
– ตัวแทนรับชำระเงิน
– สถาบันการเงินและบุคลากรภายนอกอื่นที่กลุ่มบริษัทใช้บริการเพื่อการให้บริการแก่ท่าน
– บุคคลอื่นใดที่กฎหมายกำหนด ในกรณีที่มีกฎหมาย กฎเกณฑ์ ระเบียบต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง คำสั่งของหน่วยงานราชการ หน่วยงานที่มีหน้าที่กำกับดูแล หรือคำสั่งของหน่วยงานตุลาการให้บริษัทเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน กลุ่มบริษัทจำเป็นต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว
– ผู้รับโอนสิทธิ และ/หรือหน้าที่จากบริษัทใดในกลุ่มบริษัท ในกรณีที่บริษัทใดในกลุ่มบริษัทประสงค์จะโอนสิทธิ และหน้าที่ของบริษัทนั้น ๆ รวมถึงการโอนกิจกรรมบางส่วนหรือทั้งหมด การควบรวมกิจการ และการปรับเปลี่ยนโครงสร้างการถือหุ้นบริษัท บริษัทนั้น ๆ จำเป็นจะต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่ผู้รับโอน (รวมถึงผู้ที่มีความเป็นไปได้ที่จะเป็นผู้รับโอน) โดยสิทธิและหน้าที่ของผู้รับโอนในส่วนที่เกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะเป็นไปตามนโยบายฯ ฉบับนี้ด้วย
การเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัททำการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ดังนี้
– จัดเก็บในรูปแบบเอกสาร และ/หรือข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์
– จัดเก็บ ณ สถานที่ที่มีการจำกัดสิทธิการเข้าถึง/ เก็บไว้ใน Server / เก็บไว้บน Cloud ที่เป็นผู้ให้บริการของกลุ่มบริษัท
– ระยะเวลาเก็บข้อมูลส่วนบุคคลกลุ่มบริษัทจะจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ตามระยะเวลาที่จำเป็นในระหว่างที่ท่านเป็นลูกค้าหรือมีความสัมพันธ์อยู่กับกลุ่มบริษัท หรือตลอดระยะเวลาที่จำเป็นเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้องในนโยบายฉบับนี้ ซึ่งอาจจำเป็นต้องเก็บรักษาไว้ต่อไปภายหลังจากนั้นหากมีกฎหมายกำหนดหรืออนุญาตไว้ เช่น จัดเก็บไว้ตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน จัดเก็บไว้เพื่อวัตถุประสงค์ในการพิสูจน์ตรวจสอบกรณีอาจเกิดข้อพิพาทในอายุความตามที่กฎหมายกำหนดเป็นระยะเวลาไม่เกิน 10 ปี
ทั้งนี้ บริษัทจะลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคล หรือทำให้เป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุถึงตัวตนของท่านได้เมื่อหมดความจำเป็นหรือสิ้นสุดระยะเวลาดังกล่าว
การรักษาความปลอดภัยสำหรับข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้เป็นอย่างดีตามมาตรฐานการรักษาความปลอดภัยของระบบสารสนเทศตามมาตรฐานสากล ISO/IEC 27001:2013 ในการป้องกันการเข้าถึง หรือการแก้ไขข้อมูลโดยไม่ได้รับอนุญาตโดยใช้วิธีการเข้ารหัสและ/หรือ ความปลอดภัยทางกายภาพที่เหมาะสมและมีการตรวจสอบการเข้าถึงข้อมูลดังกล่าว รวมถึงใช้มาตรการเชิงบริหารจัดการที่เข้มงวดเพื่อป้องกันการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน และเพื่อรักษาความมั่นคงปลอดภัยในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล และเพื่อประโยชน์ในการรักษาความลับและความปลอดภัยสำหรับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน บริษัทได้จำกัดสิทธิในการเข้าถึงหรือเข้าใช้งานข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้เพียงบุคลากรของบริษัทที่เกี่ยวข้องเท่านั้น แต่ทั้งนี้ บริษัทอาจมีการใช้บริการจากบุคคลและ/หรือนิติบุคคลภายนอกที่เข้ามาดำเนินการในนามของบริษัท ซึ่งบุคคลเหล่านี้มีหน้าที่ปฏิบัติตามมาตรการรักษาความลับของข้อมูล และอาจถูกเลิกจ้างและดำเนินคดีทางอาญา หากฝ่าฝืนข้อกำหนดเหล่านี้
สิทธิของเจ้าของข้อมูล
ท่านมีสิทธิในการดำเนินการ ดังต่อไปนี้
– สิทธิการให้ความยินยอม
ท่านมีสิทธิเลือกที่จะให้ข้อมูลส่วนบุคคลใด ๆ ที่บริษัทร้องขอ และยินยอมให้บริษัทจัดเก็บ ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว หรือไม่ก็ได้ เพียงแต่ท่านต้องรับทราบว่าการให้ข้อมูลส่วนบุคคลที่ไม่ครบถ้วนตามที่บริษัทร้องขอ หรือการไม่ให้ความยินยอมในการจัดเก็บ ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวอาจทำให้ท่านถูกจำกัดสิทธิการใช้บริการบางอย่างของบริษัท หรือส่งผลให้บริษัทไม่สามารถให้บริการแก่ท่านได้เลยหากข้อมูลดังกล่าวจำเป็นต่อบริษัทในการให้บริการแก่ท่าน
– สิทธิในการเพิกถอนความยินยอม
ท่านมีสิทธิในการเพิกถอนความยินยอมในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ความยินยอมกับบริษัทได้ตลอดระยะเวลาที่ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอยู่กับบริษัท โดยการถอนความยินยอมของท่านจะไม่กระทบต่อการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านให้ความยินยอมไปแล้วก่อนหน้านี้ ทั้งนี้ การถอนความยินยอมดังกล่าวอาจทำให้บริษัทไม่สามารถให้บริการแก่ท่านต่อไปได้
– สิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล
ท่านมีสิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านและขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว หรือขอให้บริษัทส่งข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่เจ้าของข้อมูลเองหรือผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่น (หากข้อมูลดังกล่าวอยู่ในรูปแบบที่สามารถดำเนินการดังกล่าวได้) รวมถึงขอให้บริษัทเปิดเผยการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านหากข้อมูลดังกล่าวเป็นข้อมูลที่ท่านไม่ได้ให้ความยินยอมในการจัดเก็บ
– สิทธิในการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง
ท่านมีสิทธิในการขอให้บริษัทดำเนินการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่บริษัทจัดเก็บไว้เป็นข้อมูลที่ถูกต้อง เป็นปัจจุบัน หรือเพิ่มเติมข้อมูลที่ไม่สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด
– สิทธิในการลบ หรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคล
ท่านมีสิทธิในการขอให้บริษัททำการลบ หรือ ทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวกลายเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถใช้ระบุตัวเจ้าของข้อมูลได้ หากท่านเพิกถอนหรือคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับท่าน หรือเมื่อไม่มีความจำเป็นที่จะต้องประมวลผลตามวัตถุประสงค์ที่ท่านได้ให้ความยินยอมไว้ หรือเมื่อบริษัทไม่ปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
– สิทธิในการระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล
ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นการชั่วคราวได้ หากบริษัทอยู่ในระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริงหรือตรวจสอบคำคัดค้านของท่าน นอกจากนี้ในกรณีที่ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ท่านอาจขอให้บริษัทระงับการใช้ข้อมูลดังกล่าวแทนการลบหรือการทำลายก็ได้
– สิทธิในการให้โอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคล
ท่านมีสิทธิในการโอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ท่านให้ไว้กับบริษัทไปยังผู้ควบคุมข้อมูลรายอื่น หรือตัวท่านเองด้วยเหตุบางประการได้
– สิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
ท่านมีสิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หากข้อมูลนั้นบริษัทจัดเก็บโดยไม่ได้รับความยินยอมจากท่าน
เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทได้มีการดำเนินการปฏิบัติตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 โดยแต่งตั้งเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Data Protection Officer : DPO) เพื่อตรวจสอบการดำเนินงานของบริษัทที่เกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้สอดคล้องกับพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 รวมถึงกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
ท่านสามารถติดต่อมายังเจ้าหน้าที่ DPO ของบริษัทได้ เพื่อดำเนินการยื่นคำร้องขอดำเนินการตามสิทธิข้างต้นได้ตามช่องทางการติดต่อดังนี้
บริษัท ไทซันฟูดส์ จำกัด
โทรศัพท์ : 02-7317250
อีเมล : info@thaisunfoods.com
Website: https://www.thaisunfoods.com/
ทั้งนี้ บริษัทจะพิจารณาและแจ้งผลการพิจารณาตามคําร้องของท่านภายใน 30 วัน นับแต่วันที่บริษัทได้รับคําร้องขอดังกล่าว